แนวโน้มการวิจัยและพัฒนาในหลากหลายสาขา ในปี 2025 กำลังเน้นไปที่เทคโนโลยี
ที่ตอบสนองความต้องการทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้แก่ :
.
- ปัญญาประดิษฐ์และ AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI)
AI กำลังก้าวหน้าสู่การช่วยเหลือในงานสร้างสรรค์ เช่น การออกแบบภาพ การแต่งเพลง หรือแม้แต่การเขียนบทภาพยนตร์ โดย AI สามารถสร้างผลงานใหม่จากข้อมูลเดิมที่ได้รับการฝึกฝน เช่น การใช้ RunwayML ในการตัดต่อวิดีโอหรือการสร้างตัวละครเสมือนจริง (Digital Humans) ด้วยเทคนิค Deepfake ที่ทำให้ตัวละครมีอารมณ์และการแสดงออก ที่สมจริง ตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมบันเทิง AI ลดงานทำซ้ำและช่วยผู้สร้างสรรค์มุ่งเน้นด้านนวัตกรรมมากขึ้น ทั้งนี้ ยังมีข้อถกเถียงเรื่องจริยธรรม เช่น การปกป้องลิขสิทธิ์และการใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
. - เศรษฐกิจหมุนเวียนและความยั่งยืน (Circular Economy and Sustainability)
ความยั่งยืนเป็นหัวใจของการพัฒนาในปี 2025 โดยมีการมุ่งเน้นที่การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนาวัสดุรีไซเคิล หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ตัวอย่างที่เด่นชัด เช่น IKEA ที่ตั้งเป้าหมายให้สินค้าทั้งหมดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Patagonia ที่สนับสนุนการซ่อมและใช้เสื้อผ้าเดิม ธุรกิจเหล่านี้ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่และสร้างวัฒนธรรมการบริโภคอย่างรับผิดชอบ
. - การผลิตแบบดิจิทัลและกระจายศูนย์ (Decentralized Digital Manufacturing)
การเปลี่ยนแปลงในภาคการผลิตกำลังมุ่งไปที่การใช้ระบบ Internet of Things (IoT) และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ ทำให้การผลิตสามารถตอบสนองต่อความต้องการแบบเรียลไทม์ ตัวอย่างคือระบบ Master Data Management (MDM) ที่เชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดของเสียในกระบวนการ นอกจากนี้ การผลิตแบบ “Hyper-Local” ช่วยให้บริษัทตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของแต่ละท้องถิ่น เช่น การออกแบบสินค้าให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมเฉพาะพื้นที่
. - การปรับแต่งเฉพาะบุคคลขั้นสูง (Hyper-Personalization)
AI ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล เช่น การให้คำแนะนำด้านการเงินที่ปรับตามพฤติกรรมของผู้ใช้ หรือการนำเสนอสินค้าในอุตสาหกรรมค้าปลีกที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย ความสามารถนี้ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจ เช่น การใช้ AI ตัวแทนส่วนตัว (Personal AI Assistant) ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้เพื่อให้คำแนะนำเฉพาะตัวในเวลาจริง ทำให้บริการตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
. - เทคโนโลยีการบริหารข้อมูล (Master Data Management – MDM Systems)
MDM เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยรวบรวมและจัดการข้อมูลสำคัญจากหลายแหล่งอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ธุรกิจมีข้อมูล SVoT (Single Version of Truth) ทำให้สามารถวิเคราะห์เชิงลึกและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ เช่น บริษัทผลิตสินค้าสามารถใช้ MDM เพื่อระบุโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หรือปรับกระบวนการเพื่อลดการสูญเสียทรัพยากร แนวโน้มเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ยังเป็นคำตอบต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในยุคปัจจุบัน
